ตำนาน มือปราบจอมขมังเวทย์ บท1

นี่เป็นเรื่องจริงที่คุณตาเคยเล่าให้ฟัง
ขอขอบคุณเนื้อหาจากPo Pu Puk Pik 
   ตาผมเป็นตำรวจและครั่งใคร่ในเรื่องเครื่องรางของขลัง หลังจากที่ตาผมจบจากนักเรียน ส.ต. ตาก็ออกไปแสวงหาคาถาอาคมเพื่อเอาไว้ปราบคนร้ายตาผมได้เป็นลูกศิษย์ร่วม อาจารย์ การท่านขุนพันธ์ ณ วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ตาว่าไม่ใช่ทุกคนจะเรียนวิชาอาคมได้ คนที่จะเรียนต้องมีความอดทนสูง ต้องหมั่นบำเพ็ญเพียร อยู่ในศีลในธรรม ในบางวันต้องนั่งสามาธิเป็นเวลานานๆบางทีก็เป็นวันเป็นคืน ซึ่งทุกวันต้องขึ้นไปแชร์น้ำว่านบนภูเขาที่อยู่หลังวัดแช่เป็นเวลานานๆ ตาผมบอกสิ่งที่ได้จากวัดเขาอ้อ ส่วนมากจะเป็นคาถาอาคมทางด้านคงกระพัน ลองหนหายตัว เมฆตามหานิยม มากกว่าการแก้มนต์ ของฝ่ายศัตรูและเรื่องการรักษาเรื่องชองสมุนไพรการต่อกระดูดปัดเริมปัดตาแดงตาต้อหลังจากตาผมเรียนจบก็กลับมาพักพื้นที่บ้านได้ไม่นานตาก็เริ่มออกเดินทางเพื่อหาวิชาการต่อสู้ เช่น มวยไชยา กระบี่กระบองวิชา ไม้สั้น และอีกหลายอย่างที่ผมจำไม่ค่อยได้ และตาผมได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อศึกษาหาวิชาอาคมอีกหลายสำนักแต่ตาบอกผมว่าไม่เคยเล่นของสายที่เป็นร่าง เช่น หนุมาณ ลิงลม อะไรเป็นต้น
หลักจากเก็บหาวิชาพอสมควรแล้วตาผมจึงตัดสินใจเข้าป่าพร้อมปืนคู่ใจ ปืนหักลำหนึ่งกระบอกปืนสั้น .45 colt 1911 และของที่จำเป็นกับเพื่อนๆอีก3คนเพื่อตามหาของขลัง ก่อนเข้าป่าตาบอกผมว่าตาได้ทำพิธีเปิดป่าขอ คมาเจ้าที่เจ้าทางและเข้าป่าไปป่าที่นั้นเป็นภูเขาที่ยาวมากและยาวไปถึงมาเล และยาวสูงพอสมควรเป็นป่าทึบที่อุดมสมบูรณ์ ก่อนเข้าป่าตาได้บอกเพื่อนๆว่าถ้าหากพบเจออะไรให้ปรึกษากันก่อนห้ามบุ่มบามทำอะไรก่อนเด็ดขาด พอเดินเข้าไปในป่าพอลึกพอสมควร ระหว่างทางตาก็เก็บเสบียงและสมุนไพรที่จำเป็นไปด้วย ตาและเพื่อนๆได้เจอกับฝูงกวางฝูงนึงตาทำพิธีขอ คมาอีกครั่ง และยิงกวางตัวนึงขนาดไม่เล็กเกินไปและไม่ใหญ่เกินไป ตาได้บอกผมว่า กวางตัวนั้นสามารถทำเป็นเสบียงสำหรับ4คน ได้ถึง 1อาทิตย์ พอตกถึงดึกๆตา ก็ได้ทำห้างนอนกัน เพราะยังไม่ถึงที่หมายที่ต้องการ ก่อนฟ้ามืดก่อนท่านขึ้นไปนอนห้าง ท่านได้ปั้นดินขึ้นมา 4 ก้อน เพื่อทำพิธีเพื่อไม่ให้สัตว์ร้ายหรืออะไรที่มองไม่เห็นเข้ามาทำร้ายและรบกวนเราได้ ตาได้นำดิน 4ก้อน ไปวางไว้ในจุดที่เราต้องการเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตาได้นำเถาวัลมาร้อมรอบเพื่อทำเครื่องหมายให้เห็นชัดขึ้น และตาสั่งห้ามให้ใครออกจากเถาวัลนี้ โดยเด็ดขาด ก่อนนอนตาได้ขอทำพิธีเพื่อขอที่อยู่พักอาศัยไหว้เจ้าที่เจ้าทางให้ช่วยคุ้มครอง ตาบอกหากได้ยินเสียงอะไรหรือใครเรียกห้ามขานโดยเด็ดขาดโดยตาบอกหากมีอะไรให้เรียกชื่อ 3 ครั้ง เช่น จง จง จง
(ตาผมชื่อ ตา จงและเพื่อนตาชื่อ ตาครอย ตามิต และตาปาน). ตาบอกคืนนั้นได้ยินแต่เสียงพุ้มไม้สั่นทั้งคืนเดี๋ยวสั่นตรงนั้นสักพัก ไปสั่นตรงนู้น แต่สั่นอยู่นอกเส้นเถาวัลตา ตาเลยไม่ได้สนใจอะไร
พอพรุ่งนี้เช้า ตาก็เริ่มทำอาหารโดยย่างกวางต้มกวางกินกันแก้หนาว และจะได้มีแรงเดินทางต่อ พอกินกันเสร็จ ก็เก็บข้าวของเพื่อออกเดินทางกันต่อ ระหว่างเดินทางสักพัก เพื่อนตาก็ถามว่า 
ตามิต: มันตามเรามาทำไม
ตาปาน: เป็นเรื่องธรรมดาเสือมันหิวแต่มันไม่ใช่เสือธรรมดามันเป็นเสือสมิง
ตาปานเลยนำเถาวัลบริเวณนั้นมาทำเป็นสร้อย 4 เส้น ตาปานได้ลงบริกรรมและคาถาแล้วแจกให้กับเพื่อนๆทุกคน แต่จุดประสงค์หลักคือไว้เป็นเครื่องยืนยันมีความหมายว่านี้คือคนจริงไม่ใช่ผีป่าหรือเสือสมิงแปลงกายมาในป่า เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยบางครั้งก็ยิงกันเองตายหลายศพแล้ว ตาก็พากันเดินทางต่อ พอตกดึกตาก็ทำแบบเดิม แบบทุกๆครั้งที่ทำมา พอมาถึงวันที่ 4. .............

เอาไว้ต่อบทความหน้านะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
Po Pu Puk Pik 
ชอบไม่ชอบแนะนำติชมคอมเม้นกันเข้าไม่ได้นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น